ส.ว. เย้ยอาจมีเพียง 5 คน โหวตหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ หากยังดันแก้ ม.112

วันที่ 26 มิถุนายน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "กรรมกรข่าว คุยนอกจอ" ถึงทิศทาง ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตอนหนึ่งว่า ไม่จริง ซึ่งสิ่งที่เขาเสนอไปตนไม่อยากให้ประชาชนสับสน เพราะจริงๆแล้ว วุฒิสภาให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อเสนอแก้ไข ม.112 โดยได้พูดและยืนยันมาตั้งแต่แรก แม้เรื่องแก้มาตรา 112 จะไม่ได้ระบุใน MOU แต่ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่นายพิธา และพรรคก้าวไกล เสนอที่จะทำเรื่องนี้ต่อไป เราก็ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ

ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ว่าการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะผ่านหรือไม่ผ่าน แต่เป็นเรื่องจุดยืนหรือสิ่งที่ตั้งใจจะกระทำ ทั้งนี้เรื่องเหล่านี้หากสร้างกระแสไปเรื่อยๆสังคมก็จะยิ่งมีความเห็นต่างและมีปัญหา ทั้งนี้ยืนยันว่าเสียง ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้พรรคก้าวกลแตะต้อง ม.112 เลย เพราะจะเป็นการสร้างกระแสสร้างความคิดผิดๆให้คนในสังคม ซึ่งจะเห็นอย่างในปัจจุบันเด็กเยาวชนถูกสร้างความคิดผิดๆในเรื่องเสรีภาพ

นายเสรี ยังกล่าวถึงเสียง ส.ว.ที่จะโหวตนายพิธาเป็นนายกฯ นั้นว่า อาจจะมี ส.ว.บางคน ไม่ถึง 5 คน ที่แสดงออกไปแล้ว และไม่กล้าถอย ซึ่งหกลายคนที่มีชื่อปรากฎอยู่ในกลุ่มรายชื่อ ส.ว. 17-18 คน ซึ่งเจ้าตัวเขาก็ออกมาบอกว่าเขาไม่ได้ร่วมสนับสนุนเลย อย่างกรณี หมอเจตน์ ที่ออกมายืนยันว่าไม่ได้จะสนับสนุนเลย และต่อต้านด้วยหากแก้ ม.112

ส่วนกรณที่พรรคก้าวไกลพยายามพูดคุยกับ ส.ว.นั้น นายเสรี กล่าวว่า ไม่มีคำว่าพยายาม มีแค่ออกสื่อ หรือาจจะคุยกับ ส.ว.เพียงบางคน แต่ไม่มีการมาคุยเป็นทางการ เพราะเขาก็เห้นอยู่แล้วว่าถ้ามาคุยเรื่องเหล่านี้ ส.ว.ไม่เห็นด้วยหากมีการแก้ ม.112 ส่วนกรณีที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงว่ามีเสียง ส.ว.สนับสนุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้น คิดว่าเป็นเพียงการสร้างกระแสทางสังคม สร้างมวลชน ทำให้พรรคร่วมเข้าใจได้ว่ามีโอกาสได้เป็นนายกฯได้

เลือกตั้ง 2566 : ส.ว.ส่วนใหญ่ ยังไม่ตัดสินใจโหวตเลือกนายก

เลือกตั้ง 2566 : ส.ว.เสียงแตก ข้อเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ชี้เป็นไปได้ยาก

ส่วนเรื่องการตรวจสอบนายพิธา ยังมีอีกหลายส่วนทั้งการถือหุ้น การค้ำประกันหนี้ เรื่องการแสดงความเห็นเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย หากคิดแค่ว่ายึดหลักเสียงข้างมาก เพราะเป็นคนละกระบวนการ ซึ่งตอนนี้เป็นกระบวนกาสรตรวจสอบประวัติความประพฤติ ดูความเหมาะสมของการที่จะเป็นนายกฯได้หรือไม่ โดยใช้เสียงสมาชิกรัฐสภา ส่วนประเด็นที่ประชาชนเลือกมาแล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องคุณสมบัติและความเหมาะสมตามรัฐธรรมนูญ หากยังมีกระบวนการนี้อยู่ก็ต้องให้ความอิสระในการตรวจสอบความเหมาะสมคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ยืนยันไม่กลัวว่าจะถูกมองสวนกระแส หากทำสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสังคม จึงไม่กลัวกระแสว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย พร้อมยืนยันไม่หวั่นไหวเพราะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง หากหวั่นไหวก็ลาออกไป

เมื่อถามว่าเมื่อไม่ผ่าน ส.ว.กรณีเสนอชื่อนายพิธา การเมืองจะเป็นอย่างไรต่อ นายเสรี กล่าวว่า การเมืองไม่ได้กำหนดให้เลือกนายพิธาคนเดียว เพราะคนที่มีคุณสมบัติและไม่มีปัญหามีอีกหลายพรรคมีอีกหลายคน ซึ่งหากไม่ผ่านก็ไปจัดทัพใหม่ไปรวมตัวกันมา หรือจะรวมตัวกันอย่างไร ซึ่งมีกระบวนการอยู่แล้วไม่ใช่ทางเดียวที่ต้องมีนายพิธาเท่านั้น

ส่วนการเสนอชื่อนายพิธาใหม่เรื่อยๆนั้น นายเสรี บอกว่าคิดว่าไม่ถึงขนาดนั้น คิดว่าทุกคนย่อมมีเหตุผล และดูว่าอะไรเหมาะอะไรควร แต่หากไปไกลถึงขั้นที่ว่าเสนอชื่อนายพิธาคนเดียวไปเรื่อยๆ แสดงว่าเกเร แต่หากเสนอมาแล้วไม่ขัดแย้งและมีประโยชน์มันก็ไปได้ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่ายืนยันว่าถึงอย่างไรนายพิธาก็ไม่ผ่านการโหวตใช่หรือไม่ อยี่ที่เขาว่าแสดงออกอย่างไร ก็กำหนดแนวทางมาเลยว่าจะไม่ยุ่ง ม.112 จะไม่แก้ จะเคารพเทอดทูล ปกป้อง ใครกระทำเรื่องเหล่านี้ก็ไปห้ามปราม อย่างไปยุยงส่งเสริมว่าเป็นเสรีภาพอยากทำอะไรก็ได้ หรือยุยงส่งเสริมให้เยาวชนกระทำเรื่องผิดๆ ต้องเลิกเรื่องเหล่านี้เราถึงจะเชื่อใจกันได้ ซึ่งก็ต้องปรับตัวเองบ้าง หากยังยืนยันในสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่จะให้กระทบสถาบัน ตนก็เชื่อและยืนยันว่าไม่ผ่านแน่นอน

เมื่อถามว่า พรรคการเมืองที่เหลือควรเสนอชื่อนายกฯแข่งหรือไม่ เป็นเรื่องที่ ส.ส.ต้องคิดเอง ต้องจัดการกันเองไปจัดทัพไปตกลงกันเอง ส่วน ส.ว.ก็อยู่ในส่วนการพิจารณาบุคคลที่ถูกเสอนชื่อเข้ามาว่าเหมาะเป็นนายกฯหรือไม่